29 กันยายน 2565

ไผ่​ หน้าตลาดมารวย​ ปิ่นเกล้า​

"ผุดจากดิน​ เป็นหน่อ​ งอกขึ้น​มา
ผู้​คน​พา​ ขุดกิน​ เรียกหน่อไม้
ต้นไผ่​โต​ เอาไปทำ ของมากมาย
ประโยชน์​หลาย​ จากกอ​ หน่อพงไพร​

เอาไปทำ​ ตะเกียบ​ คีบกับข้าว
เอามาเหลา​ ทำฟืน​ ไฟไสว
ทำเป็น​ราว​ ตากผ้า​ เห็น​ทั่วไป​
ทำบันได​ ปีนต่าย ก็เข้าที

ทำเป็น​โต๊ะ​ เป็นแคร่ ก็ดูงาม
ทำข้าว​หลาม​ ทำนั่งร้าน​ ช่างทาสี
ทำไม้เรียว​ ตีเด็กดื้อ​ ก็​เห็น​มี
ต้น​ไผ่ดี​ มี​คุณ​ค่า​ น่านิยม"

28 กันยายน 2565

สายไฟ​ ถนนบรมราช​ชนนี​ ใกล้​เซ็นทรัล​ปิ่นเกล้า​

"สายโยงสายใย​ ไฉน​มีมาก
ดูยุ่ง​ดูยาก​ ลากเกี่ยว​พัน​กัน

ดูช่าง​วุ่นวาย​ มากมายพัลวัน
ผู้​คนงงงัน​ หลบกันวุ่นวาย​

สายเอ๋ย​สายใย​ เส้น​สายในกาย
ดูช่างมากมาย​ วุ่นวาย​วกวน

เส้น​เลือด​เส้นเอ็น​ เห็น​ในกายตน
มากมายเหลือล้น​ พ้นพรรณนา

สายใยความ​คิด​ สุดพิจารณา​
วกวนยิ่ง​กว่า​ เกินค่าคาดเดา

คิดเกิดคิดดับ​ จับปรุงแต่ง​เอา
สร้าง​เรื่อง​ใหม่เก่า​ รู้ไม่เท่าทัน

ก็รู้เบาๆ​ ไม่ต้องทันกัน
รู้​ใครรู้มัน​ รู้พลันผ่านไป

รู้​กายรู้จิต​ รู้​คิด​รู้​ใจ
รู้​ปรุงแต่ง​ไป​ รู้​ได้​ใน​ตน​"


27 กันยายน 2565

ท่าน้ำ​ราชวงศ์​

"ยืนรอรถเมล์​ สายสองศูนย์​สี่
ต้นสายอยู่ที่​ ท่าราชวงศ์

ตั้ง​ใจไปต่อ​ ราชประสงค์
มีเจตจำนง​ คงอยู่​คู่​กาย

ตราบที่ยังมี​ ชีวีไม่วาย
ไม่รอวันตาย​ ดูกายให้ดี

กายต้องเคลื่อน​ไหว​ ไม่อยู่​กับที่
กล้ามเนื้อ​มวลมี ทวีพลัง​

พลังชีวิต​ ต้องเสริม​ต้องสั่ง
หมั่นออกกำลัง​  พลังจึงมา

นั่งนอนมากไป​ ชีวิต​สั้น​หนา
เคลื่อน​ไหวกายา​ พาสร้างสมดุล"



ฝนตกที่บางลำพู​

" ระลึก​ชาติ​ได้​ แต่​คราหนหลัง
สายฝนไหลหลั่ง​ ที่บางลำพู​

ไม่รู้​ชาติไหน​ ได้พบโฉมตรู
ร่วมเรียงเคียง​คู่​ ได้อยู่​ชิดกาย

สุขทุกข์​เคียง​ข้าง​ ไม่ห่างเหินหาย
ถึง​คราชีพวาย​ ต้องตายจากกัน

หลายชาติ​ผ่านลา​ ชะตาพลิก​ผัน
ไม่เคยพบกัน​ แต่วันจากลา

หมื่น​แสนล้านชาติ​ ไม่อาจค้นหา
ให้เจอขวัญ​ตา​  อุราระทม

ตัดสินใจ​จบ​ ภพชาติขื่นขม​
พลันได้​ชื่นชม​ ภิรมย์​ทันตา

ได้​พบคู่ใหม่​ ไฉไลจริงหนา
อยู่​กิน​กันมา​ พาผ่านหลายปี
.... 
มาบางลำพู​ เห็น​อยู่​ฝนมี
ยลเห็นสตรี​ ดังมีเวทย์​มนต์​

ระลึก​ชาติ​พลัน​ พบกันอีกหน
เธอนั้นคือคน​ ฉันค้นหา​มา
 
ผ่าน​ภพผ่าน​ชาติ​ ผ่านกาลเวลา​
บุพเพไม่พา​ ให้มาพบกัน​

พบกัน​อีกครา​ ชะตา​แปรผัน
เธอจ้อง​มองฉัน​ แล้วพลัน​หลบตา

ฉันก้าวไปใกล้​ ให้ชิดขวัญ​ตา​
สามีเธอมา​ คว้ามือ​เธอไป

หยุด​อยู่​กับที่​ มิมีติงไหว
สติมาไว​ หันไปทันที​

เมีย​เราเดินมา รอนานไหมพี่
ยิ้ม​ตอบคนดี​ มิได้เอ่ยคำ

ระลึก​ชาติ​ได้​ ให้จด​ให้​จำ
แต่ไม่อาจนำ​ ทำตามใจตน

ผ่าน​แล้วให้จบ​  ลบหมดไม่สน
ดังไร้ตัวตน​ หนหลังไม่มี

แม้ยังจำได้​ ใช้​ในทางดี​
ตราบชั่วชีวี​ วิถี​นำไป"







26 กันยายน 2565

หัวมุม​กระทรวง​มหาดไทย​

"ที่​เห็น​ว่าง​ มันว่างจริง​ หรือว่างหลอก
ใจมันบอก​ ว่าว่าง​ ว่างจริงหริอ
หรือ​ว่าว่าง​ ไม่อาจบอก​ ได้งั้นฤๅ
หรือว่างคือ​ อนิจจัง​ ไม่จีรัง

ว่างไม่ว่าง​ ก็​ช่าง​ ของมันเถิด
ความคิดเกิด​ มันผ่านไป​ ไม่ย้อนหลัง
เอาแต่คิด​ ว่างไม่ว่าง​ อย่างจริงจัง​
ดันทุรัง​ หาความ​หมาย​ ตายก่อนเอย"

สวนข้างตึกแถว​ ท่าดินแดง​

" อยู่​ในเมือง​ มีพื้นที่​ ไม่มากนัก
จะปลูก​ผัก​ ทำสวน​ คงไม่ไหว
มีพื้น​ที่​ นิดหน่อย​ ทำอย่างไร​
สวนไฉไล​ ปลูก​ติด​ ชิดบ้านเลย

จะสวนเล็ก​ หรือใหญ่​ แล้วแต่​ที่
ยามว่างมี​ ปลูก​ต้นไม้​ ไม่นิ่งเฉย​
เลือก​พันธ์​ไม้​ ให้เหมาะสม​ ลงมือเลย
ค่อยคุ้นเคย​ คอยดูแล​ ต้นไม้งาม"

23 กันยายน 2565

ถนนเจริญ​กรุง​

" ก่อนจะข้าม​ ถนน​ ดูขวาซ้าย
ก่อนจะย้าย​ เคลื่อน​ขา​ ดูซ้าย​ขวา
ดูบนล่าง​ ดูให้ครบ​  รอบกายา
ภัยมีมา​ รอบทิศ  คิดระวัง

ภัยนอกกาย​ มองเห็น​ ได้ง่ายๆ​
ภัย​ในกาย​ มันไม่ง่าย​ อย่าง​ที่หวัง
โรครุมเร้า​ เข้ามา​เยือน​ ร่างกายพัง
เฝ้า​ระวัง​ ดูแลกัน  ก่อนวันวาย

ถึง​ไม่มี​ ภัยใน  และ​ภัยนอก
ใจยิ้มบอก​ สุขอย่าง​นี้​ ไม่มีขาย
แต่ไม่อาจ​ รู้​ถึงวัน​ ชีวาวาย
ยังไม่สาย​ รู้ว่า​ตาย​ อยู่ทุกครา

จะว่าแล้ว  เราตาย​ ตั้งแต่เกิด
ขอร้องเถิด​ อย่าตาย​ ไม่เกิดผล
เซลร่างกาย​ เกิด​ดับ​ กับทุกคน
นอกในตน​ แสดงผล​ ทุกเวลา

ทำอย่างไร​ ไม่ต้อง​ กลับมา​เกิด​
แสนประเสริฐ​ ไม่เกิดตาย​ ไร้ปัญหา
เรีบน​รู้ธรรม​ ให้สว่าง​ ทางปัญญา​
เพียรจนกว่า​ ร​ู้จบ​ พบความจริง"


22 กันยายน 2565

รอที่สี่​แยกท่าดินแดง​

" ถ้าต้อง​รอ​ ก็รอ​ รอรอก่อน
อย่า​รีบร้อน​ รอก่อน​  ถึงจุดหมาย
เกิด​มาแล้ว​ อย่ารีบ​ เร่งไปตาย
ไม่ยากง่าย​ แค่รู้​รอ​ รอแล้วรอ

รออย่าง​คน​ ปกติ​ ไม่ลุ่มร้อน
ถ้า​เร่าร้อน​ รอหน่อย​ ค่อย​ๆ​หาย
ใจเย็นร้อน​ ก็รอ​ มันผ่อนคลาย
ไม่ยากง่าย​ แค่​รู้​รอ​ รอ​แล้ว​รอ​

รอกระทั่ง​ ไม่มี​ อะไรรอ
ที่รอรอ​ มันจบ​ หมดความหมาย
รอแล้ว​รู้​ ไม่ต้องรอ​ จนวันตาย
แสนสบาย​ รอแล้ว​รู้​ รู้​แล้ว​รอ"


21 กันยายน 2565

ม้านั่ง​ สะพาน​หัน​

"มีม้านั่ง​ ให้ได้พัก​ ยามเหนื่อย​อ่อน
แดดไม่ร้อน​ นั่งสบาย​ คลายเมื่อยขา
ฝรั่ง​แขก​ จีนไทย​ ผลัดกันมา
แหล่งการค้า​ สะพานหัน​ ฉันภิรมย์​

หลายเชื้อชาติ​ มารวมกัน​ ที่ตรงนี้
สินค้าดี​ มีให้เลือก​ ดังใจสม
แหล่ง​ท่องเที่ยว​ ชาว​ต่างชาติ​ เขานิยม
มาเยี่ยม​ชม​ ยลวิถี​ ชีวีไทย"





แมวนอน

" แมวตัวหนึ่ง​ นอน​อยู่​ ที่หน้า​บ้าน
ย่านคลองสาน​ คนเดินผ่าน​ มันไม่สน
เราหยิบ​กล้อง​ ถ่ายภาพ​ไว้​ ในบัดดล
ไม่สนคน​ ไม่สนใคร​ ไม่แหงนแล

ได้เอะใจ​ หรือแมวแนะ​ แนวธรรมะ
รู้​เลิกละ​  หลงไหล​ ในกระแส
มีทุกสิ่ง​ มีของฉัน​ ให้ดูแล
มีแน่ๆ​ ก็เห็น​อยู่​ เต็ม​ลูกตา​

มีไม่มี​ แมวมัน​  ก็​ไม่สน
เหมือน​ตัวคน​ ไม่ปรากฏ​ ให้ค้นหา
ดั่ง​ของว่าง​ ไร้ความหมาย​ ไขปัญญา
พรรณนา​ หากมาก​ไป​ ไกลทางธรรม​"

20 กันยายน 2565

ท่อระบายน้ำ​หน้า​โรงเรียน​สวนกุหลาบ​

 " ฉันเป็น​ท่อ​ ระบาย​น้ำ​ อยากเล่าเรื่อง
อยู่​ในเมือง​ ศิวิไลซ์​ ไฉไล​หนา
ฉันอิ่มเอม​ กับทุกสิ่ง​ ทิ้ง​ลงมา
สิ่งนานา​ จากทุกบ้าน​ และร้านรวง

 ฉันเป็น​ท่อ​ ระบาย​น้ำ​ อยากเล่าเรื่อง
ไม่นานเนื่อง​ ท่ออุดตัน​ พลันสยอง
ฝนตกหนัก​ น้ำท่วม​ใหญ่​ ไม่อยากมอง
แม้มีคลอง​ น้ำไม่ไหล​ ระยายทัน

ถ้า​จะ​เปรียบ​ เส้นเลือด​ ที่อุดตัน​
โรคความดัน รุมเร้า​ ไม่​น่าขัน
อาจตายได้ ไม่รักษา​ ให้ท่วงทัน
เปรียบ​เทียบ​กัน​ ให้ได้  คิดไตร่ตรอง​

ฉันเป็น​ท่อ​ ระบาย​น้ำ​ แค่อยากบ่น
อยากให้คน​ ในเมือง​ ไม่เศร้า​หมอง
ท่อสะอาด​ น้ำไม่​ท่วม​ แลน่ามอง
น้ำไหลคล่อง​ ทุก​คนต้อง​ ช่วยกัน​เทอญ"
 

สะพานหัน

" สะพานหัน​ มีแต่ฉัน​ ไม่มีเธอ
ไม่ได้เจอ​ เธอในฝัน​ วันจางหาย
ในอดีต​ คิดว่า​รัก​ ไม่เสื่อมคลาย
รักมลาย​ ทะลาย​ฝัน​ วันร้างลา

ก็เพียง​แค่​ แต่งคำ​ สร้าง​เรื่อง​เล่า
ฉันเธอเขา​ เราและนาย​ สุดสรรหา
ตัวอักษร​ ซ้อนความ​ พรรณนา
สมมุติ​มา​ แล้ว​ผ่าน​ไป​ ไร้ตัวตน​"

ท่าดินแดง​

" บทกลอน​สั้น​ ฉันเขียน​ วันอังคาร
เมื่อ​วันวาน​  เป็น​วัน​จันทร์​ ใครก็รู้
วันพรุ่งนี้​ เป็นวันพุธ​ ตามฮินดู​
วันไหว้ครู​ พฤหัส-บดี

ถึงวันศุกร​์​ เตรียม​หยุดงาน​ ตามฝรั่ง
เสาร์​อาทิตย์​ สุขจัง​ ช่างสุขี
ได้หยุด​พัก​ ก่อนเริ่ม​งาน​ กันอีกที
วันจันทรฺ์​มี​ แรงพลัง​ ​สร้างสรรค์​งาน"

19 กันยายน 2565

ฟ้า

"มองท้องฟ้า​ ยามเย็น​ ที่ข้างบ้าน
กลับจากงาน​ คลายเหนื่อย​ล้า​ เห็นฟ้าใส
ก้อนเมฆ​ขาว​ ตัดสีฟ้า​ งามวิไล​
ถ่ายภาพ​ไว้​ ก่อน​แสงฟ้า​ มาเปลี่ยนพลัน

ฟ้าก็เป็น​ ของฟ้า​ อย่างที่เห็น
อยาก​ให้เป็น​ เช่นที่จิต​ คิดวาดฝัน
ใช่ผิดถูก​ รู้ว่าคิด​ ก็แล้วกัน
ดวงตะวัน​ ลับฟ้า​ ลาแล้ว​เอย"

ถ่าย​ที่​ หมู่บ้าน​อารี​ยา​ บางบัวทอง​

ช่องว่าง

" มี​ที่ว่าง​ อยู่​ระหว่าง​ ที่ไม่ว่าง
ที่ตรงกลาง​ ในภาพ​ เห็นว่างไหม
ระหว่าง​ตึก​ มีช่องลม​ พัดผ่าน​ไป
รู้​สึก​ไหว​ กายกระทบ​ ลมพัดมา

 ที่เห็นอยู่​ ถ้าไม่คิด​ มันก็ว่าง
ไม้ต้องร้าง​ ความคิด​ ถวิลหา
อยากจะคิด​ ก็คิดไป  ใช้​ปัญญา​
เพียง​รู้ว่า​ มันคือคิด​ จบสิ้นไป

ธรรมชาติ​ สรรพสิ่ง​ มีเกิดดับ
เกิดขึ้น​ปั๊บ​ มันดับปุ๊บ​ สุดสงสัย
เอามาคิด​ ติดต่อ​ ก่อเรื่อง​ไกล​
หยุดตอนไหน​ ว่างก็เห็น​ เด่นชัดเอย​ " 

ภาพถ่าย​ ซอกตึกที่​โรงพยาบาล​ศิริราช​


16 กันยายน 2565

home coffee

"วันนี้​ชง​ กาแฟ​ อยู่​ที่​บ้าน
ไม่งุ่นง่าน​ มันง่วงนอน​ เมื่อตอนสาย
เมล็ด​กาแฟ​ สิบเอ็ด​กรัม​ บดจนกลาย
คล้าย​เม็ดทราย​ เนื้อ​ละเอียด​ เตรียม​ใว้ชง

โดยสรุป​ ได้กาแฟ​ มาหนึ่งแก้ว
นั่ง​ลงแล้ว​ กินกาแฟ​ ตามประสงค์​
ความง่วงหาว​ หายไป  ดั่ง​ใจ​จง
รู้​ไหลหลง​ ดื่มด่ำ​ ลงลำคอ

รู้รสชาติ​ แต่ละคน​ รู้กันได้
รู้ง่ายๆ​ รู้สบาย​ รู้แล้วหนอ
มันก็รู้​ ของมัน​ แค่นั้น​พอ
หากพูด​ต่อ​ ต้องแต่ง​คำ​ ทำนิยาย

รู้นั้น​จบ​ ทันที​ ที่ได้รู้
ไม่นิ่ง​อยู่​ มัน​เป็น​ ดังของหาย
หาเท่าไร​ ก็ไม่พบ​ มันมลาย
สิ้น​ความหมาย​ ฉับพลัน​ แค่นั้นเอย"

15 กันยายน 2565

ชาร์จ​แบต​ ร้านกาแฟ​มวลชน​ ศิริราช​

"โทรศัพท์​  ใช้มา​ สี่ห้าปี
แบตเริ่ม​มี​ อาการ​เสื่อม​ ต้อง​ชาร์จ​บ่อย
ร้านกาแฟ​ เจ้าประจำ​ มานั่งคอย
ชาร์จ​ไฟหน่อย​ แล้วค่อย​ๆ​ จิบกาแฟ​

คาเฟอีน​ ช่วยกระตุ้น​  ให้ตาตื่น​
เมื่อ​วานคืน​ นอนไม่หลับ​ ทัศน์​ดวงแข
ไม่เต็มดวง​ เปลี่ยน​แปรผัน​ ทุกวันแล
รู้แน่แท้​ อนิจจัง​ ไม่ยั่งยืน​

ที่ว่าแน่​ คือไม่แน่​ ในที่สุด
คิดว่าหยุด​ หรือ​ไม่​หยุด​ ใยต้องฝืน
รู้ว่าคิด​ คิดว่า​รู้​ ทุกวัน​คืน
คิดว่าตื่น​ กลับหลับไหล​ ใช่ยั่งยืน​

ไม่นานนัก​ กาแฟ​ ใกล้หมดแก้ว
แบต​เต็มแล้ว​ ต้องแจว​ ไม่มัวขืน
มีคน​มา​ รอนั่งต่อ​ เรารีบยืน
ยามค่ำคืน​ ได้ยลจันทร์​ หลับฝันดี"



12 กันยายน 2565

พื้นถนนข้างวัดระฆัง​

" พื้นถนน​ มองเห็นอิฐ​ เรียงแทรก​อยู่
นึกคิด​ดู​ อิฐควรอยู่​ คู่ผนัง
ใยมาอยู่​ ที่พื้น​ น่าแปลก​จัง
ที่วังหลัง​ ครั้ง​อดีต​ มีที่มา

หลากหลาย​เรื่อง​ เอามาคิด  ให้สืบค้น
คนหนอคน​ ค้นกันไป​ ไขปัญหา​
จบเรื่อง​เก่า​ มีเรื่อง​ใหม่​ ทุกเวลา
สิ้นชีวา​ ไม่อาจหมด​ จบสิ้นกัน

อยาก​จะรู้​ เรื่อง​ใด​ ก็ทำเถิด
ให้มันเกิด​ ปัญญา​  ก่อนอาสัญ
เรื่อง​ทางโลก​ ไม่อาจจบ​ ก็ช่างมัน
เมื่อรู้ทัน​ เรื่อง​ทางธรรม​ พลันจบเอย​"

08 กันยายน 2565

วัดระฆัง​

" หลากสีสรรมารวมกันเป็นรูปภาพ
ความ​คิด​ทาบเปรียบเทียบ​เขียน​อักษร​
พรรณนา​รูป​ที่เห็น​เป็น​คำกลอน
วจีจรผ่านมา​แล้ว​ผ่าน​ไป​

นับ​ไม่ถ้วน​กี่​พิกเซล​ที่ได้เห็น
สร้าง​ประเด็น​ความ​คิดให้หลงไหล
มันเกิดดับนับไม่หมดจบกันไป
เกี่ยว​โยงใย​เกิดภพชาติ​ไม่ขาดตอน

รู้แล้ว​คิด​ คิดว่า​รู้​ รู้​แล้ว​คิด
ถูกหรือผิด​ ตามจริต​ ไร้ใครสอน
รู้แล้ว​มัน​ ก็​เลยผ่าน​ ไปทุกตอน
จบบทกลอน​ ขอไปนอน​ แล้วนะเออ​"